อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) จากทั่วโลก ในปี 2566 มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีสาเหตุมากจากปัจจัยหลัก คือ ในหลายอุตสาหกรรมยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นสำคัญ เนื่องจากก่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และยังสามารถควบคุมต้นทุนได้ ประกอบกับสถานะการณ์ในปัจจุบันที่เหล่าบรรดาแฮกเกอร์ได้พัฒนาการโจมตีทางไซเบอร์ให้มีความหลากหลาย และหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็น Malware, Phishing, Vishing, Wormware และ Ransomware เป็นต้น จึงส่งผลให้เกิดการตื่นตัวที่จะแสวงหาระบบรักษาความปลอดภัยทาง ไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเกิดการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ให้กับบุคลากร เพื่อช่วยปกป้องและปิดช่องโหว่ภายในระบบขององค์กรให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการสร้างสเถียรภาพมากยิ่งขึ้น
SECURE ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่หลากหลาย และมีชื่อเสียงระดับโลกแบบครบวงจรในประเทศไทยมายาวนานกว่า 18 ปี รวมถึง บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน Cybersecurity จึงมุ่งมั่นที่จะคัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่ และพัฒนาการบริการของบริษัทฯ ที่จะช่วยตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ครอบคลุมในทุกมิติ ผ่านผลิตภัณฑ์ และการให้บริการด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยทาง ไซเบอร์ให้ครบทุกมิติไม่ว่าจะเป็น ระบบรักษาความปลอดภัยบนแอพพลิเคชัน ระบบรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ ระบบรักษาความปลอดภัยบนอีเมล ระบบรักษาความปลอดภัยบนอุปกรณปลายทาง ระบบบริหารจัดการตัวตนและการเข้าถึงทรัพยากร ระบบการบริหารจัดการประสิทธิภาพ ศูนย์รักษาความปลอดภัยระบบเครือข่ายและระบบสารสนเทศ ระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึง ระบบ หรือซอร์ฟแวร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้มั่นใจว่าระบบภายในองค์กรของลูกค้าจะมีความมั่นคงและปลอดภัย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมให้กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยเติบโตได้อย่างมั่นคง และมีความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระยะยาว
โดยในปี 2566 กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกส่วนของบริษัทฯ ได้ทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อให้การเติบโตของบริษัทฯ เป็นไปอย่างมั่นคง โดยจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,072.26 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 19.51 ในขณะที่มีกำไรเบ็ดเสร็จรวมอยู่ที่ 91.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 61.47 ทั้งนี้ ฝ่ายบริหาร ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริษัท ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น คู่ค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่สนับสนุนการดำเนินงานที่ดี ตลอดจนพนักงานที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ และมีส่วนร่วมในความสำเร็จของบริษัทฯ ตลอดมา บริษัทฯ ขอให้คำมั่นว่า จะมุ่งมั่นพัฒนา และสรรหาผลิตภัณฑ์และการบริการตลอดจนการพัฒนาทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อันจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการ และแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย
นักรบ เนียมนามธรรม
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร